บทความเพื่อสุขภาพ
ทอนซิลอักเสบ
ต่อมทอนซิล เป็นต่อมที่อยู่ในกลุ่มของเนื้อเยื่อประเภทน้ำเหลือง ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ภายในต่อมมีเม็ดเลือดขาวหลายชนิด ซึ่งมีหน้าที่หลักในการจับและทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินอาหาร ซึ่งสามารถพบได้หลายตำแหน่ง โดยที่เห็นได้ชัดเจนอยู่บริเวณด้านข้างของช่องปาก นอกจากนี้ยังพบได้ที่บริเวณโคนลิ้น และในช่องของโพรงจมูก
" ทอนซิลอักเสบ เป็นอาการที่พบได้บ่อย เกิดขึ้นได้กับทุกช่วงอายุ
แต่พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส "
อาการต่อมทอนซิลอักเสบ
🔸 มีอาการเจ็บคอที่อาจรุนแรงและยาวนานกว่า 48 ชั่วโมง
🔸 มีไข้ หนาวสั่น
🔸 ปวดศีรษะ
🔸 ปวดร้าวที่หู
🔸 กลืนอาหารลำบาก เจ็บคอเวลากลืน
🔸 เสียงแหบหรือเสียงเปลี่ยน
🔸 ต่อมทอนซิลบวมแดง กดแล้วเจ็บ
🔸 มีกลิ่นปาก
การดูแลรักษาตนเอง
✅ เมื่อมีอาการเจ็บคอหรือมีไข้ ควรรับประทานยาแก้ปวดลดไข้ แต่หากเป็นไข้อ่อนๆ ไม่มีอาการเจ็บปวดก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยา ข้อควรระวังสำหรับเด็กหรือวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 16 ปี ที่มีอาการของโรคหวัดธรรมดาหรือโรคไข้หวัดใหญ่ไม่ควรใช้ยาแอสไพริน เพราะอาจทำให้มีอาการแพ้หรือที่เรียกว่าโรคเรย์ซินโดรม ส่งผลอันตรายถึงแก่ชิวิตได้
✅ พักผ่อนให้เพียงพอ
✅ ดื่มน้ำอุ่น เพื่อให้ชุ่มชื้นคอ
✅ รับประทานอาหารอ่อนๆ
✅ กลั้วปากด้วยน้ำเกลือ สามารถทำได้เองที่บ้าน โดยใช้เกลือ 1 ช้อนชาผสมน้ำเปล่าประมาณ 250 มิลลิลิตร กลั้วลำคอแล้วบ้วนทิ้ง จะช่วยให้บรรเทาอาการเจ็บคอลงได้
ทั้งนี้ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจรักษา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ แผนกอายุรกรรม (ชั้น 2)
📞 โทร. 02-339-0000 ต่อ 2051-2052
ต่อมทอนซิล เป็นต่อมที่อยู่ในกลุ่มของเนื้อเยื่อประเภทน้ำเหลือง ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ภายในต่อมมีเม็ดเลือดขาวหลายชนิด ซึ่งมีหน้าที่หลักในการจับและทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินอาหาร ซึ่งสามารถพบได้หลายตำแหน่ง โดยที่เห็นได้ชัดเจนอยู่บริเวณด้านข้างของช่องปาก นอกจากนี้ยังพบได้ที่บริเวณโคนลิ้น และในช่องของโพรงจมูก
" ทอนซิลอักเสบ เป็นอาการที่พบได้บ่อย เกิดขึ้นได้กับทุกช่วงอายุ
แต่พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส "
อาการต่อมทอนซิลอักเสบ
🔸 มีอาการเจ็บคอที่อาจรุนแรงและยาวนานกว่า 48 ชั่วโมง
🔸 มีไข้ หนาวสั่น
🔸 ปวดศีรษะ
🔸 ปวดร้าวที่หู
🔸 กลืนอาหารลำบาก เจ็บคอเวลากลืน
🔸 เสียงแหบหรือเสียงเปลี่ยน
🔸 ต่อมทอนซิลบวมแดง กดแล้วเจ็บ
🔸 มีกลิ่นปาก
การดูแลรักษาตนเอง
✅ เมื่อมีอาการเจ็บคอหรือมีไข้ ควรรับประทานยาแก้ปวดลดไข้ แต่หากเป็นไข้อ่อนๆ ไม่มีอาการเจ็บปวดก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยา ข้อควรระวังสำหรับเด็กหรือวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 16 ปี ที่มีอาการของโรคหวัดธรรมดาหรือโรคไข้หวัดใหญ่ไม่ควรใช้ยาแอสไพริน เพราะอาจทำให้มีอาการแพ้หรือที่เรียกว่าโรคเรย์ซินโดรม ส่งผลอันตรายถึงแก่ชิวิตได้
✅ พักผ่อนให้เพียงพอ
✅ ดื่มน้ำอุ่น เพื่อให้ชุ่มชื้นคอ
✅ รับประทานอาหารอ่อนๆ
✅ กลั้วปากด้วยน้ำเกลือ สามารถทำได้เองที่บ้าน โดยใช้เกลือ 1 ช้อนชาผสมน้ำเปล่าประมาณ 250 มิลลิลิตร กลั้วลำคอแล้วบ้วนทิ้ง จะช่วยให้บรรเทาอาการเจ็บคอลงได้
ทั้งนี้ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจรักษา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ แผนกอายุรกรรม (ชั้น 2)
📞 โทร. 02-339-0000 ต่อ 2051-2052