บทความเพื่อสุขภาพ
วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก เหมาะสำหรับคนกลัวเข็ม
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก (Live Attenuated Influenza Vaccine : LAIV) เป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนฤทธิ์แบบพ่นทางจมูก โดยวัคซีนชนิดนี้จะพ่นเข้าไปทางโพรงจมูกและกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยไม่ต้องใช้เข็มฉีดยา แต่วัคซีนชนิดพ่นจมูกนี้ต้องให้แพทย์หรือกุมารแพทย์ เป็นผู้สั่งยาและให้วัคซีนเท่านั้น ยังไม่สามารถซื้อมาพ่นเองได้
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก เหมาะกับใคร
-เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 2 - 49 ปี
-ผู้ที่กลัวการฉีดยา
ข้อดีของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก
- ลดความกลัวหรือวิตกกังวลจากการฉีด
- ใช้งานง่าย โดยพ่นวัคซีนเข้าโพรงจมูกโดยแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์
- มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในเด็กและวัยรุ่นสูงถึง 88%
- มีประสิทธิภาพดีกว่าวัคซีนแบบฉีด ชนิดเชื้อตาย (TIV) ถึง 54.9% ลดการนอนโรงพยาบาลได้ 63%
- กระตุ้นภูมิคุ้มกันตรงจุด คือเยื่อบุทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นทางเข้าหลักของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
- ภูมิคุ้มกันของวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก จะอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
- ช่วยลดการแพร่ระบาดในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สูงที่สุดและสามารถแพร่เชื้อได้นานกว่าผู้ใหญ่
- มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีกว่า โดยวัคซีนจะเลียนแบบการติดเชื้อตามธรรมชาติ จึงช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งในเยื่อบุทางเดินหายใจ (IgA) และในเลือด รวมไปถึงภูมิคุ้มกันชนิด T-cell ที่จำเพาะต่อโรคได้ดีกว่าวัคซีนแบบฉีดชนิดเชื้อตาย การตอบสนองของ T-cell ยังคงอยู่นานอย่างน้อย 1 ปี
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก
- คัดจมูก มีน้ำมูกไหล
- เจ็บคอ
- ไข้ต่ำ ๆ หรือปวดเมื่อยเล็กน้อย
ทั้งนี้ หากมีอาการแพ้รุนแรง เช่น หายใจลำบาก หน้าบวม ควรรีบพบแพทย์ทันที
การรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก
- เด็กอายุตั้งแต่ 2 ปี - 8 ปี รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่น 1 หรือ 2 โดส
ในกรณีที่ให้ 2 โดส ให้วัคซีนแต่ละโดสห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน
- เด็กอายุตั้งแต่ 9 ปี – ผู้ใหญ่ 49 ปี รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่น 1 โดส
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก (Live Attenuated Influenza Vaccine : LAIV) เป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนฤทธิ์แบบพ่นทางจมูก โดยวัคซีนชนิดนี้จะพ่นเข้าไปทางโพรงจมูกและกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยไม่ต้องใช้เข็มฉีดยา แต่วัคซีนชนิดพ่นจมูกนี้ต้องให้แพทย์หรือกุมารแพทย์ เป็นผู้สั่งยาและให้วัคซีนเท่านั้น ยังไม่สามารถซื้อมาพ่นเองได้
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก เหมาะกับใคร
-เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 2 - 49 ปี
-ผู้ที่กลัวการฉีดยา
ข้อดีของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก
- ลดความกลัวหรือวิตกกังวลจากการฉีด
- ใช้งานง่าย โดยพ่นวัคซีนเข้าโพรงจมูกโดยแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์
- มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในเด็กและวัยรุ่นสูงถึง 88%
- มีประสิทธิภาพดีกว่าวัคซีนแบบฉีด ชนิดเชื้อตาย (TIV) ถึง 54.9% ลดการนอนโรงพยาบาลได้ 63%
- กระตุ้นภูมิคุ้มกันตรงจุด คือเยื่อบุทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นทางเข้าหลักของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
- ภูมิคุ้มกันของวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก จะอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
- ช่วยลดการแพร่ระบาดในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สูงที่สุดและสามารถแพร่เชื้อได้นานกว่าผู้ใหญ่
- มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีกว่า โดยวัคซีนจะเลียนแบบการติดเชื้อตามธรรมชาติ จึงช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งในเยื่อบุทางเดินหายใจ (IgA) และในเลือด รวมไปถึงภูมิคุ้มกันชนิด T-cell ที่จำเพาะต่อโรคได้ดีกว่าวัคซีนแบบฉีดชนิดเชื้อตาย การตอบสนองของ T-cell ยังคงอยู่นานอย่างน้อย 1 ปี
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก
- คัดจมูก มีน้ำมูกไหล
- เจ็บคอ
- ไข้ต่ำ ๆ หรือปวดเมื่อยเล็กน้อย
ทั้งนี้ หากมีอาการแพ้รุนแรง เช่น หายใจลำบาก หน้าบวม ควรรีบพบแพทย์ทันที
การรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก
- เด็กอายุตั้งแต่ 2 ปี - 8 ปี รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่น 1 หรือ 2 โดส
ในกรณีที่ให้ 2 โดส ให้วัคซีนแต่ละโดสห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน
- เด็กอายุตั้งแต่ 9 ปี – ผู้ใหญ่ 49 ปี รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่น 1 โดส